โรคกระดูกพรุน
โดย ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์
“การสูญเสียมวลกระดูกไม่แสดงอาการใดออกมา ประชาชนทั่วไปมักไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคกระดูกพรุนจนกระทั่งกระดูกอ่อนแอลง เมื่อได้รับแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย หรือหกล้มก็ทำให้เกิดกระดูกหัก”
โรคกระดูกพรุนคืออะไร?
โรคกระดูกพรุน คือ โรคที่มีการสูญเสียมวลกระดูกอย่างต่อเนื่อง และเสื่อมสลายทางโครงสร้างของกระดูกทำให้กระดูกบางลง มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดกระดูกหักได้ง่าย โรคนี้ค่อยๆเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน มักไม่ค่อยแสดงอาการจนกระทั่งมีการหักของกระดูกเกิดขึ้น
รูปภาพ 1 ผู้ป่วยที่มีอายุมากขึ้นและเป็นโรคกระดูกพรุนร่วมกับมีการยุบตัวของกระดูกสันหลังทำให้ตัวเตี้ยลงและหลังค่อม
โดยปกติร่างกายจะมีการสะสมมวลกระดูกตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งมีมวลกระดูกสูงสุดในช่วงอายุประมาณ 20-30 ปี ซึ่งหลังจากนั้นความหนาแน่นของมวลกระดูกจะคงที่ หลังจากนั้นเมื่อมีอายุประมาณ50 ปี ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าเพศหญิงจะมีอัตราการสูญเสียของมวลกระดูกมากกว่าในเพศชาย เนื่องจากผลของการหมดประจำเดือน เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ยับยั้งการสร้างกระดูกนั้นมีปริมาณที่ลดลง ทำให้เกิดการทำลายกระดูกมากกว่าการสร้างกระดูกมีผลทำให้มวลกระดูกบางลง ถ้ากระดูกบางลงจนถึงจุดหนึ่งจะทำให้เกิดกระดูกหักตามมา ซึ่งอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
รูปกราฟ แสดงความสัมพันธ์ของมวลกระดูกที่เพิ่มขึ้นในช่วงวัยเด็ก และลดลงในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยพบว่าในเพศหญิงมวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็วมากกว่าในเพศชาย เนื่องมาจากการหมดประจำเดือน ทำให้เพศหญิงมีโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุนมากกว่าเพศชาย และมีโอกาสเกิดกระดูกหักได้มากขึ้น
โรคกระดูกพรุนมีอาการอย่างไร?
โรคกระดูกพรุนมักถูกเรียกว่า “มหันตภัยเงียบ” เนื่องจากการสูญเสียมวลกระดูกไม่แสดงอาการใดออกมา ประชาชนทั่วไปมักไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคกระดูกพรุนจนกระทั่งกระดูกอ่อนแอลง เมื่อได้รับแรงกระแทกเพียงเล็กน้อย หรือหกล้มก็ทำให้เกิดกระดูกหักได้ง่ายโดยเฉพาะกระดูกบริเวณสะโพก, กระดูกสันหลัง, และกระดูกบริเวณข้อมือผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดมากจนกระทั่งไม่สามารถทำงานและทำกิจวัตรประจำวันได้ เมื่อกระดูกสันหลังหัก หรือยุบลงมาผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังอย่างรุนแรง, ตัวเตี้ย, หลังค่อม
รูปภาพ 3 แสดงโครงสร้างของกระดูกปกติ และโครงสร้างของกระดูกพรุน และการยุบตัวของกระดูกสันหลัง
อะไรเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน ?
สาเหตุที่แท้จริงของโรคกระดูกพรุนไม่ทราบแน่นอน อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้แก่ เพศหญิง, ประจำเดือนหมดก่อนวัยอันควร หรือได้รับการผ่าตัดเอารังไข่ออก, ได้รับอาหารที่มีแคลเซียมต่ำ, สูบบุหรี่, ดื่มสุราและกาแฟมาก, ได้รับยาสเตียรอยด์, ยารักษาโรคไทรอยด์, เป็นโรครูมาตอยด์ พบว่า 50% ของผู้หญิงที่อายุมากกว่า 50 ปีเกิดกระดูกหักเนื่องจากโรคกระดูกพรุน
ทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคกระดูกพรุนหรือไม่?
แพทย์สามารถตรวจความหนาแน่นของมวลกระดูกโดยใช้เครื่องเอกซเรย์(DEXA)วัดความหนาแน่นของมวลกระดูกที่สะโพก, กระดูกสันหลัง, และกระดูกข้อมือ ซึ่งเป็นวิธีการวัดมวลกระดูกด้วยเทคนิคพิเศษโดยใช้รังสีจำนวนน้อยเพื่อหาปริมาณของมวลกระดูก
มีวิธีป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนอย่างไร?
การป้องกันไม่ให้เกิดโรคกระดูกพรุนเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกระดูกหัก โดย
1. หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน
2. รับประทานแคลเซียม ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก โดยมีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุคือ
ถ้าเป็นโรคกระดูกพรุนแล้วมีวิธีการรักษาอย่างไร?
หลักการในการรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน ได้แก่
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกระดูกและข้อ ปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
© 2023 Taninit. All rights reserved.